วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ชมประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งเดียวในโลกที่วัดไตรภูมิ ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ เพชรบูรณ์

ชมประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งเดียวในโลกที่วัดไตรภูมิ

ประเพณีอุ้มพระดำน้ำเป็นประเพณีเก่าแก่ คู่บ้านคู่เมืองของชาวเพชรบูรณ์ ที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ซึ่งไม่ปรากฏที่ไหน....นอกจากที่นี่เท่านั้น

ตามประวัติเล่าว่า ได้มีพระพุทธรูปผุดขึ้นมาจากกลางแม่น้ำ บริเวณท่าน้ำวัดโบสถ์ชนะมาร ชาวบ้านจึงร่วมกันอัญเชิญขึ้นมากราบไหว้ แต่ในปีถัดมาพระพุทธรูปได้หายไปอีกครั้ง และได้ไปพบที่กลางแม่น้ำที่เคยเจอ จึงได้อัญเชิญมาไว้ที่วัดไตรภูมิอีกครั้ง แล้วถวายพระนามว่า พระพุทธมหาธรรมราชา ต่อมาได้จัดงานประเพณี อุ้มพระดำน้ำ ขึ้น ในวันสารทไทย ตรงกับวันแรม 15 ค่ำเดือน 10 ของทุกปี
ในพิธี อุ้มพระดำน้ำ นั้น ชาวเมืองเพชรบูรณ์ จะอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชา พระคู่บ้านคู่เมืององค์นี้ แห่จากวันไตรภูมิไปตามเส้นทางรอบเมือง เพื่อให้ประชาชนได้สักการะบูชา จากนั้นเจ้าเมืองเพชรบูรณ์ จะเป็นตัวแทนอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชา ประดิษฐฐานบนเรือที่ท่าน้ำหน้าวัดไตรภูมิ ล่องเรือทวนกระแสน้ำป่าสัก ไปทำพิธีดำน้ำที่ท่าน้ำวัดโบสถ์ชนะมาร โดยจะอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชาเทิดไว้เหนือหัวแล้วจึงดำน้ำลงไป พร้อมกับหันหน้าไปทางทิศเหนือสามครั้ง ทิศทางใต้สามครั้ง ชาวเพชรบูรณ์เชื่อกันว่า จะทำให้ท่าน้ำอุดมสมบูรณ์ บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุข งานประเพณี อุ้มพระดำน้ำ ของที่นี่ ถือเป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลก ที่ได้สืบทอดกันมา เป็นมรดกตกทอดถึงลูกถึงหลาน ตราบนานเท่านาน

อร่อยประจำถิ่น
  • นอกจากมะขามหวานแล้ว ไก่ย่างวิเชียรบุรีก็อร่อยขึ้นชื่อ หากินได้ที่ร้านไก่ย่างบัวตอง หรือไก่ย่างตาแป๊ะ ที่อยู่ใกล้กัน ถ้าชอบขนมจีน ต้องขนมจีนหล่มเก่า ร้านขนมจีนคุณตา ใกล้กับที่ทำการไปรษณีย์ในเมือง

รู้ก่อนเดินทาง
  • อุ้มพระดำน้ำที่คุ้งน้ำวัดโบสถ์ชนะมาร มีทุกวันที่ 7-11 ตุลาคม หรือช่วงแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี


ที่มาของบทความ
หนังสือ 102 เที่ยวออกรส

READ MORE - ชมประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งเดียวในโลกที่วัดไตรภูมิ ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ เพชรบูรณ์

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553

อาบน้ำแร่แช่น้ำร้อนผ่อนคลายกายและใจ ในธรรมชาติ

อาบน้ำแร่แช่น้ำร้อนผ่อนคลายกายและใจ ในธรรมชาติ

สุขใดคงไม่เท่ากับการได้นอนอาบน้ำแร่แสนสบาย ณ โป่งน้ำร้อนท่าปาย พลังน้ำแร่ร้อน จากธรรมชาติมากประโยชน์ จะช่วยผ่อนคลายใจและกายให้ถึงขีดสุด
โป่งน้ำร้อนท่าปาย

โป่งน้ำร้อนท่าปาย เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยว ขึ้นชื่อของอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จากลานจอดรถออกแรงเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 50 เมตร คุณจะพบโป่งน้ำร้อนที่กำลังผุดเป็นพรายฟอง 2 บ่อใหญ่รายรอบด้วยป่าไม้สักอันอุดมสมบูรณ์ ปกคลุมด้วยหมอกควันบางๆ บางคนอาจรับรู้ถึงกลิ่นฉุนเล็กน้อย ซึ่งเป็นกลิ่นจากแร่ธาตุใต้ผิวดิน อุณหภูมิของน้ำโปร่งสูงถึง 80 องศาเซลเซียส สูงเกินไปกับการลงไปแช่ตัว บางช่วงเป็นธารกว้าง แต่ในขณะที่บางช่วงก็เป็นแอ่ง สามารถลงไปนอนแช่ในน้ำอุ่นๆ ได้สบายอารมณ์ จะเลือกผ่อนคลายเป็นส่วนตัว หรือใช้เวลากับครอบครัวที่รักก็เพลิดเพลินได้ตามใจชอบ
โป่งน้ำร้อนท่าปาย

นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ สำหรับทุกคนที่มีหัวใจรักป่าเขาลำเนาไพรอย่างเต็มเปี่ยม รับฟังเสียงนกร้องขับขาน สายลมเย็นโบกสะบัดพัดโชยชื่นกลางแสงแดดอุ่น ที่ถือว่าเป็นสิ่งที่นักต่อสุขภาพ ยิ่งหากได้กางเต็นท์นอนพักแรมสักคืน คุณจะได้แหงนหน้ามองดูดาวนับพันกระจ่างฟ้า ยามค่ำคืน รื่นรมย์กับความงามของธรรมชาติที่แสนเรียบง่าย มีเพียงแสงดาวและแสงจันทร์คลอเคล้าบรรยากาศพาให้คุณนอนหลับฝันดีตลอดคืน
โป่งน้ำร้อนท่าปาย

อร่อยประจำถิ่น
  • ใกล้ๆ โป่งน้ำร้อนท่าปาย มีร้านกาแฟวาวี อ.ปายที่เสิร์ฟกาแฟหอมกรุ่นให้คุณแวะไปจิบกาแฟยามเช้ากันได้เพลินๆ

รู้ก่อนเดินทาง
  • โป่งน้ำร้อนท่าปายตั้งอยู่ใน ต.แม่ฮี้ อ.ปาย ห่างจากอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง 30กม.
  • ภายในหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ น.. 2 มีห้องน้ำและลานกางเต็นท์ให้บริการ โดยมีเต็นท์ในราคา 30 บาท/คน ชาวต่างชาติ 100 บาท/คน หากนำเต็นท์มาเองไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ
  • ติดต่อที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ น..2 โทร.053-248491


ที่มาของบทความ
หนังสือ 102 เที่ยวออกรส

READ MORE - อาบน้ำแร่แช่น้ำร้อนผ่อนคลายกายและใจ ในธรรมชาติ

วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สัมผัสวิถีง่ายงามในเมืองโรแมนติกกลางหุบเขา อำเภอปัว น่าน

สัมผัสวิถีง่ายงามในเมืองโรแมนติกกลางหุบเขา
อำเภอปัว น่าน

ในความเงียบสงบ บนถนนสายหนึ่ง สองข้างทางถูกโอบล้อมด้วยขุนเขาและท้องฟ้าสีคราม มุ่งหน้าสู่เมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม ทุ่งข้าว กองฟาง และรอยยิ้มของผู้คน
อำเภอปัว จ.น่าน

บางคนกล่าวไว้ว่า สำหรับเมืองปัว ถ้าไม่ตั้งใจจริงก็ไปไม่ถึง แต่หากไปแล้วก็จะคิดถึงตลอดไป อำเภอปัว ตั้งอยู่ในจังหวัดน่าน จังหวัดที่ไม่ใช่ทางผ่านสู่เมืองท่องเที่ยวสำคัญทางภาคเหนือ หากแต่เป็นที่ที่มีธรรมชาติงดงาม มีวัฒนธรรมชาวไทลื้อ วัดวาอารามเก่าแก่ ชุมชนที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ของรอยยิ้มและผู้คน ใครที่ได้ไปสัมผัส ก็ยากที่จะลืม.....บนเส้นทางเขียวขจีของจังหวัดน่านสู่ อำเภอปัว มีความเป็นมาที่น่าประทับใจ เดิมเป็นอาณาจักรเล็กๆ ของล้านนา และเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชาวไทลื้อมาหลายร้อยปี มีความอุดมสมบูรณ์ของผืนดินและแหล่งน้ำ วัฒนธรรมชาวไทลื้อคือการทอผ้าลายน้ำไหล ล้วนสะท้อนคติความเชื่อ ฝีมือเชิงช่าง และจินนาการทางศิลปะของชุมชนชาวไทลื้อได้อย่างดี
อำเภอปัว จ.น่าน

ชีวิตยามเช้าของชาวปัวเองก็มีเสน่ห์ไม่แพ้เมืองไหนๆ ความเรียบง่ายตามวิถีชนบทมีให้เห็นอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะกาดเช้า ชาวบ้านนำของมาขาย พืชผักท้องถิ่นตามฤดูกาล ยอดฟักทอง ตำลึง ผักฮาก ผักหวาน รวมถึงอาหารพื้นบ้านไม่ว่าจะเป็น ตำขนุน ตำเตา ส่ามะเขือแจ้ แอบอ่อง ออหมู บรรยากาศยามเช้าจึงดูสดชื่นและมีชีวิตชีวาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง ด้วยความน่ารักของวิถีความเป็นอยู่แบบชุมชน ผสานกับดินแดนแห่งขุนเขาที่งดงาม ทำให้เมืองเล็กๆ แห่งนี้ กลายเป็นเมืองที่อยู่ในใจของใครหลายคนที่เคยไปสัมผัส

อร่อยประจำถิ่น
แวะตลาดเช้าแล้วถามหา “แกงก้าม” อาหารพื้นบ้านแท้ๆ ของชาวน่าน ปรุงโดยหมูสามชั้นนำไปแกงกับน้ำพริกทางภาพเหนือ อาหารอีกชนิดหนึ่งที่อยากให้ลองแต่อาจจะหารับประทานยาก คือ “ยำหนัง” เป็นการนำเอาหนังวัวหรือควายตากแห้งมาเผาให้สุก หั่นเป็นชิ้นบางๆ แล้วนำไปแช่น้ำจนนุ่ม ก่อนนำมาคลุกกับพริกป่น แล้วปรุงด้วยเกลือและโรยหน้าด้วยผักไผ่ที่มีกลิ่นหอมยั่วน้ำลายยิ่งนัก

รู้ก่อนเดินทาง
  • เมื่อเดินทางถึงอำเภอปัว ถ้าอยากเห็นของแปลกๆ 1 ใน Unseen Thailand ก่อนถึงตัวอำเภอเล็กน้อย มีทางแยกเข้าสู่ วัดปราง ลองเลี้ยวเข้าไปดู “ต้นดิกเดียม” พรรณไม้อัศจรรย์ที่คล้ายมีอารมณ์ขันเพราะใบไม้จะสั่นไหวระริกทุกครั้ง ยามถูกคนสัมผัส

ที่มาของบทความ
หนังสือ 102 เที่ยวออกรส

READ MORE - สัมผัสวิถีง่ายงามในเมืองโรแมนติกกลางหุบเขา อำเภอปัว น่าน

วันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ชมราชินีดอกไม้ที่ผลิบานบนลานหินงาม

ชมราชินีดอกไม้ที่ผลิบานบนลานหินงาม
ป่าหินงาม ชัยภูมิ

ใครที่ชอบความสวยงาม ของมวลดอกไม้และหมู่ผีเสื้อ คงหลงเสน่ห์ผืนป่าธรรมชาติแห่งนี้ ที่มีดอกไม้สีชมพูอมม่วงที่เบ่งบานรับแสงอรุณไปทั่งผืนป่า ตัดกับสีเขียวของผืนหญ้าและโขดหิน


บนเทือกเขาพังเหย ของอุทยานแห่งชาต ป่าหินงาม แม้จะมีพื้นที่ไม่มากแต่ก็มีความโดดเด่นในเรื่องของทุ่งดอกกระเจียว หรือบัวสวรรค์ ที่ดูงดงามเปรียงประดุจเป็นราชินีของมวลดอกไม้แห่งขุนเขา ยามเช้าที่อากาศเย็นสบาย ชมทุ่งดอกไม้ผสมกับไอหมอกที่ลอยอ้อยอิ่ง และสายลมที่เย็นโชยมาเอื่อยๆ ดูจะเป็นความสุขที่หาไม่ได้จากที่ไหนนอกจากที่แห่งนี้ที่เป็นประดุจสวรรค์บนดิน
สายฝนหลั่งรินมาพร้อมกับดอกกระเจียวที่ชูช่อสลอนอวดโฉมไปทั่วทั้งขุนเขา ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนก็จะเห็นบัวสวรรค์บานสะพรั่งตลอดเส้นทาง 


นอกจากนั้นที่ลานหินงาม ลานหินรูปร่างแปลกตาที่เกิดจากการกัดเซาะตามธรรมชาติกว่า 200 ไร่ เป็นรูปตะปู รูปปราสาท เรื่อยไปจนถึงสุดแผ่นดิน จุดชมวิวที่สูงที่สุดของเทือกเขาแห่งนี้ ที่มองออกไปสุด
 สายตา จะพบกับธรรมชาติอันงดงามของสันเขา ที่เรียงสลับซับซ้อน สอดรับกับผืนป่าที่เขียวขจี และไอหมอก สีขาวนวล คือภาพประทับใจ จนอาจเรียกได้ว่า....สวรรค์บนดินก็คงจะไม่ผิดอะไร
ป่าหินงาม

อร่อยประจำถิ่น
  • มาชัยภูมิทั้งที ต้องลองหาอาหารพื้นเมือง หรืออาหารอีสานของที่นี่ โดยเฉพาะลาบเป็นรสแซบ ที่ร้านสุขภาพลาบเป็ด ถนนบายพาส ในตัวเมืองชัยภูมิ รสแซบสมชื่อ.....จนต้องบอกต่อ
ป่าหินงาม


รู้ก่อนเดินทาง
  • เทศกาลดูดอกกระเจียวบาน จะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ของทุกปี
  • อุทยานแห่งชาติป่าหินงามไม่มีบ้านพัก แต่มีสถานที่กางเต็นท์และร้านอาหารสำหรับนักท่องเที่ยว
  • ติดต่ออุทยานแห่งชาติป่าหินงาม หรือสำนักงานป่าไม้จังหวัด ชัยภูมิ โทร.044-890105


ที่มาของบทความ
หนังสือ 102 เที่ยวออกรส

READ MORE - ชมราชินีดอกไม้ที่ผลิบานบนลานหินงาม

ชมฝูงผีเสื้อ และสัตว์ป่านานาชนิด บนเส้นทางสายธรรมชาติ

ชมฝูงผีเสื้อ และสัตว์ป่านานาชนิด บนเส้นทางสายธรรมชาติ
ทุ่งกะมังชัยภูมิ

ถ้าคุณเป็นนักอนุรักษ์ ที่มีหัวใจสีเขียว ชื่นชอบในธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ท่ามกลางขุนเขาและแมกไม้ใจกลางป่า คงไม่มีที่ไหนจะเหมาะสมกับคุณเท่าที่ทุ่งกะมังอีกแล้ว ที่ๆ คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มหัวใจ


ทุ่งกะมัง ทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ไพศาลไกลสุดลูกหูลูกตา อยู่ใจกลางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ซึ่งเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ซึ่งได้ปล่อยสัตว์ป่า คืนถิ่น ทั่วบริเวณผืนป่าแห่งนี้จึงอุดมไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิดทั้ง เก้ง กวาง กระจง และนกต่างๆ ที่เราสามารถสัมผัสชีวิตของสัตว์เหล่านี้ได้อย่างใกล้ชิด โดยการขับรถไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ซึ่งตัดผ่านป่าของอุทยาน และถ้าโชคดีฝนตกก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน ก็จะได้ยลฝูงผีเสื้อนับพันๆ ตัว ที่บินตามกันมาเป็นทิวแถว ขยับปีกขาวโพลนเต็มท้องถนน
ขับรถไปเรื่อยๆ ตามป้ายบอกเส้นทาง ชื่นชมดอกไม้ป่า กล้วยไม้พันธุ์แปลกตาที่บานชูช่อทักทายอยู่ริมข้างทาง ไม่นานนักจะได้สัมผัสกับทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ 

ทุ่งกะมัง

และถ้าโชคดีอีกครั้งก็จะได้เจอฝูง เก้ง กวาง และเนื้อทราย ที่ออกมานอนอาบแดด เล็มหญ้าอ่อนอย่างสบายอารมณ์ หรืออาจได้เจอสัตว์ป่าเดินข้ามถนนผ่านหน้ารถไป ซึ่งเป็นภาพที่หาชมไม่ได้ที่ไหนนอกจาก ทุ่งกะมัง แห่งนี้ ยามเย็นขับรถออกมาจาก ทุ่งกะมัง แล้ว อย่าลืมแวะไปชมพระอาทิตย์ตกดิน ที่ริมเขื่อนจุฬาภรณ์ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก


อร่อยประจำถิ่น
  • มาทุ่งกะมังแล้วอย่าลืมแวะ พักเหนื่อยชมวิวทิวทัศน์เหนือเขื่อน ชิมอาหารรสเลิศที่สโมสรเขื่อนจุฬาภรณ์ เพราะนอกจากวิวจะสวยแล้ว อาหารยังอร่อยอีกต่างหาก

รู้ก่อนเดินทาง
  • การเข้ามาทัศนศึกษาในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามีสองกรณีคือ ชมแบบไป-กลับวันเดียว สามารถขออนุญาตจากทางเจ้าหน้าที่บริเวณด่านตรวจปางม่วง กรณีพักค้างแรมต้องได้รับอนุญาตล่วงหน้าจากส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้ โดยทางเขตฯ ไม่เปิดให้เข้าชมในช่วงเดือน กรกฏาคม-กันยายน


ที่มาของบทความ
หนังสือ 102 เที่ยวออกรส

READ MORE - ชมฝูงผีเสื้อ และสัตว์ป่านานาชนิด บนเส้นทางสายธรรมชาติ

วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ชมปราสาทต้นแบบของปราสาทหินทั้งปวง

ชมปราสาทต้นแบบของปราสาทหินทั้งปวง
ปราสาทหินพิมาย นครราชสีมา

ข้ามสะพานนาคราช เข้าสู่ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ เตรียมใจพบกับความยิ่งใหญ่ของปราสาทหินพิมาย ที่สุดแห่งลายสลักหินพิมาย ที่สุดแห่งลายสลักหินที่บรรพชนสร้างขึ้นได้ด้วยแรงศรัทธา


องค์พระศิวนาฏราชร่ายรำบนหินทรายสลักบนหน้าบันแห่งปรางค์ประธานนั้นดูราวกับว่าจะเคลื่อนไหวได้จริง ยิ่งเมื่อเดินชมรายละเอียดที่ถูกจำหลักไว้บนหินทรายอย่างงดงามซึ่งสามารถเอาชนะกาลเวลามาได้จนถึงวันนี้ ยิ่งทำให้ทึ่งในฝีมือแห่งบรรพชนที่สร้างปราสาทหินที่ยิ่งใหญ่นี้ไว้นับตั้งแต่ในพุทธศตวรรษที่ 16 หรือเกือบพันปีมาแล้ว
ปราสาทหินพิมาย ตั้งอยู่ที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นปราสาทหินที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย มีความสวยงาม เป็นพุทธสถานในลัทธิมหายาน ด้วยรูปแบบของศิลปะเป็นแบบบาปวนผสมผสานกับศิลปะแบบนครวัด สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 และมีการก่อสร้างเพิ่มเติมในยุคสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 สิ่งที่น่าสนใจคือ องค์ปราสาทนั้นหันหน้าไปทางทิศใต้ ขณะที่ปราสาทแห่งอื่นมักหันหน้าสู่ทิศตะวันออก ซึ่งเชื่อว่าเป็นเพราะปราสาทแห่งนี้ จะหันหน้าไปเชื่อมโยงกับเมืองหลวงของขอมในอดีต
จากความงามของโครงสร้าง การวางผัง และลำดับเวลาในการสร้างตามหลักฐานที่ปรากฏเชื่อกันว่า ปราสาทหินพิมาย ถือเป็นต้นแบบสำคัญในการสร้างปราสาทแห่งอื่นในภูมิภาค เช่น ปราสาทนครวัดอันเป็นความภาคภูมิใจของชาวพิมาย ซึ่งร่วมกันรักษาปราสาทแห่งนี้ให้ยั่งยืนสืบไป
ปราสาทหินพิมาย


อร่อยประจำถิ่น
  • มาเมืองพิมายต้องไม่พลาดผัดหมี่พิมาย เส้นเหนียวนุ่ม ทำจากแป้งข้าวเจ้าน่ารับประทาน แถวบริเวณไทรงามมีให้เลือกชิมหลายร้าน ทานหมี่พิมายแล้วจะได้คุยว่ามาถึงเมืองพิมายแล้วจริงๆ

รู้ก่อนเดินทาง

  • อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย โทร.044-471568 เปิดเวลา 07.30-18.00 .
  • ค่าเข้าชม คนไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 40บาท

ที่มาของบทความ
หนังสือ 102 เที่ยวออกรส

READ MORE - ชมปราสาทต้นแบบของปราสาทหินทั้งปวง

แวะบ้านดิน กินขาหมู ดูวัฒนธรรมจีนยูนนาน

แวะบ้านดิน กินขาหมู ดูวัฒนธรรมจีนยูนนาน

มุ่งสู่ดินแดนวัฒนธรรมจีนยูนนาน แห่งเมืองสามหมอก ชมวิถีชีวิตและบ้านดินจีน พร้อมชิมชาและขาหมูหมั่นโถวที่บ้านสันติชล ในอ้อมกอดแห่งขุนเขาเมืองปาย


เมืองปายนอกจากจะสวยงามด้วยทิวทัศน์ของขุนเขา แม่น้ำปายแล้ว วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนหลากชาติพันธุ์ที่อาศัยอย่างกลมกลืนอยู่ในหุบเขาแห่งนี้ ยังเป็นสิ่งที่เติมเสน่ห์ให้เมืองปายมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนเมืองอื่นใด
ห่างจากใจกลางเมืองปายไปราว 5 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านสันติชล หรือที่รู้จักกันในชื่อ หมู่บ้านจีนยูนนานซึ่งเป็นชุมชนชาวเขาเชื้อสายจีนยูนนานที่อพยพมาอาศัยอยู่ โดยปัจจุบันชุมชนแห่งนี้ได้ร่วมกันก่อตั้งศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนานขึ้นที่กลางหมู่บ้าน เพื่อให้ผู้ที่เดินทางมาเยือนได้เข้าถึงและสัมผัสกับวัฒนธรรมจีนยูนนานอย่าง

ใกล้ชิด ซึ่งได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองปายในปัจจุบัน
ในบริเวณลานวัฒนธรรมยูนนานนั้น มีก้อนหินใหญ่และรูปมังกรพันเสา เป็นสัญลักษณ์อยู่ตรงกลาง 

หมู่บ้านจีนยูนนาน
 และรายรอบไปด้วยร้านค้าของที่ระลึก ร้านอาหารจีนยูนนาน มีบริการให้กับผู้ที่ต้องการลิ้มชิมรส อาหารการกินแบบยูนนานต้นตำรับ ในบริเวณนั้นยังมีบ้านดินสาธิตที่แสดงถึงความเป็นอยู่แบบดั้งเดิมนั่นเป็นเพราะบ้านดินนั้นจะเย็นสบายในหน้าร้อนและจะอบอุ่นในหน้าหนาว สำหรับผู้ที่ชอบความตื่นเต้นและไม่กลัวความสูง อาจลองไปโล้ชิงช้าชาวเขาที่อยู่ในบริเวณศูนย์วัฒนธรรม หรือจะขี่ม้าที่ชาวบ้านเตรียมไว้ให้ก็น่าสนุกไม่เบา

อร่อยประจำถิ่น
  • มาที่หมู่บ้านสันติชลแล้วก็ต้องลองแวะที่ร้านอาหารยูนนานจึงจะได้ชื่อว่าครบสูตร ไม่ว่าจะเป็นขาหมูหมั่นโถว ผัดเห็ดหอม ไก่ดำตุ๋นยาจีน ยำสาวยูนนาน พร้อมกับข้าวสวยหรือข้าวต้มรับรองจะติดใจ หรือใครที่ต้องการกลับมาทานอาหารในตัวเมืองปาย ยังมีร้านอาหารอร่อยๆ อีกหลายร้าน เช่นที่ บ้านเบญจรงค์ ที่มีเมนูอาหารชวนชิมหลายอย่าง เช่น กุ้งผัดซอสมะขาม กระดูกอ่อน ผัดระเบิด และร้านน้องเบส มีอาหารพื้นบ้านและอาหารตามสั่งได้รสชาติจัดจ้านถึงใจ เช่น ต้มยำปลาคัง หรือว่ายำสามกรอบที่อร่อยไม่แพ้ภัตตาคารใหญ่ที่ใด

รู้ก่อนเดินทาง
  • ศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนานบ้านสันติชลนั้นมีบริการบ้านพักโฮมสเตย์ไว้ให้นักท่องเที่ยวที่สนใจมาค้างแรมเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศและวัฒนธรรมยูนนานแบบใกล้ชิดในราคากันเองสอบถามข้อมูลโทร. 053-699851

ที่มาของบทความ
หนังสือ 102 เที่ยวออกรส

READ MORE - แวะบ้านดิน กินขาหมู ดูวัฒนธรรมจีนยูนนาน

วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ดื่มน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่ผุดขึ้นเองจากยอดพระโมฬีของพระอุ่นเมือง

ดื่มน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่ผุดขึ้นเองจากยอดพระโมฬีของพระอุ่นเมือง
วัดน้ำฮูแม่ฮ่องสอน

เพลินไปกับเส้นทางพันโค้ง ผ่านหุบเขาที่งดงาม แวะกราบพระอุ่นเมืองให้อุ่นใจ ไหว้พระนางสุพรรณกัลยาที่วัดน้ำฮูแล้วค่อยๆ เริ่มต้นสำรวจเมืองเล็กๆ กลางหุบเขาที่อยู่ในใจของใครหลายคน


ปายเป็นเมืองเล็กๆ ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ถือเป็นจุดหมายแห่งการท่องเที่ยว ที่ใครๆ ก็อดที่จะกล่าวถึงไม่ได้ ด้วยความมีเสน่ห์ของภูมิประเทศ ชุมชน และวัฒนธรรม ที่ผสมผสานกันอย่างกลมกลืนเส้นทางที่คดโค้งที่เคยเป็นอุปสรรคการเดินทางในอดีตกลับกลายเป็นสิ่งที่ดึงดูด ให้หลายคนอยากที่จะเอาชนะและหาโอกาสเดินทางมาเยือนสักครั้ง
ห่างจากเมืองปายไปเพียง 3 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของ วัดน้ำฮู ซึ่งเป็นที่เคารรพศรัทธาของชาวท้องถิ่น มาเนิ่นนาน เนื่องจากเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่ออุ่นเมือง พระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัย ศิลปะล้านนา แบบสิงห์สยาม ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองปายมาช้านาน มีเรื่องน่าอัศจรรย์ใจที่ว่าภายในพระโมฬีที่เปิดได้ของหลวงพ่ออุ่นเมืองนั้น มีน้ำซึมขังอยู่ภายในอย่างไม่เคยเหือดแห้ง ชาวเมืองปายถือว่าเป็นน้ำมนต์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์อย่างสูง ถ้าใครได้ดื่มกินหรือนำมาประพรมร่างกายแล้ว จะมีแต่ความเป็นสวัสดิมงคลแก่ชีวิต ช่วยปัดเป่าเภทภัยและความเจ็บไข้ให้มลายสิ้นไป


ตามประวัติกล่าวกันว่าหลวงพ่ออุ่นเมืองนั้นสร้างขึ้นโดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อเป็นพระราชกุศลถวายพระพี่นางสุพรรณกัลยา โดยภายในวัดยังมีเจดีย์อนุสรณ์สถานพระนางสุพรรณกัลยาอยู่ด้านหลังโบสถ์ รวมทั้งมีพระบรมรูปของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระนางสุพรรณกัลยา ประดิษฐานที่ศาลากลางน้ำให้ประชาชนได้ถวายสักการะเป็นสิริมงคลอีกด้วย

อร่อยประจำถิ่น
  • ร้านอาหารน้องเบียร์ที่เมืองปายมีอาหารพื้นเมืองหลากหลายที่น่าลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นข้าวซอย ขนมจีนน้ำเงี๊ยว แกงฮังเล แกงโฮะรสเด็ด หรือว่าหมูสเต๊ะนุ่มๆ น่ารับประทาน

รู้ก่อนเดินทาง
  • สามารถเข้าไปนมัสการพระอุ่นเมืองได้ทุกวัน แต่ไม่อนุญาติให้เปิดพระโมฬีหลวงพ่ออุ่นเมือง เพื่อความเหมาะสม แต่ทางวัดได้เตรียมน้ำมนต์และบรรจุขวดสำหรับผู้ที่ต้องการนำกลับไปบูชาแล้ว

ที่มาของบทความ
หนังสือ 102 เที่ยวออกรส

READ MORE - ดื่มน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่ผุดขึ้นเองจากยอดพระโมฬีของพระอุ่นเมือง

กราบพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ประจำคนปีขาล แห่งเมืองหม้อห้อม

กราบพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ประจำคนปีขาล แห่งเมืองหม้อห้อม

ไม่ว่าคุณเกิดปีขาล หรือปีใดๆ หากได้มากราบไหว้องค์พระธาตุช่อแฮแล้วไซร้ บุญกุศลนั้นจะส่งให้ชีวิตนั้นมีแต่ความสุขและความรุ่งเรืองสืบไป

เมืองแพร่ ไม่เพียงเป็นที่รู้จักกันแต่เพียงเรื่องของผ้าหม้อห้อม ที่เลื่องลือกันในด้านคุณภาพและความงาม จากการย้อมด้วยต้นห้อมแท้ๆ ที่ให้สีสันสวยล้ำลึกกว่าหม้อห้อมจากถิ่นใด หากคุณได้มาเยือนเมืองแห่งนี้แล้ว สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือการเดินทางไปนมัสการพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญอีกองค์ประจำภาคเหนือ คือ พระธาตุช่อแฮอันเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวเมืองแพร่ที่เก่าแก่ ซึ่งมีประวัติว่าสร้างขึ้นมานับแต่สมัยพระยาลิไทแห่งกรุงสุโขทัยเลยทีเดียว
พระธาตุช่อแฮนั้นอยู่ห่างจากตัวเมืองแพร่ออกไปเพียง 8 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนเนินเขาอย่างสง่างาม พระธาตุช่อแฮ เป็นสีทองระยับยามต้องแสงแดดนั้น เป็นที่เคารพสักการะอย่างสูงของชาวพุทธเนื่องด้วยเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระศอกด้านซ้ายและพระเกศาแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงมีผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางมาสักการะไม่ได้ขาด ด้วยความศรัทธา และถือว่าเป็นสิริมงคลสูงสุดแห่งชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ของผู้ที่เกิดในปีขาล เนื่องจากตามคติความเชื่อของชาวล้านนาถือเป็นพระธาตุประจำตัวของผู้ที่เกิดในปีขาลและเชื่อกันว่าหากผู้ใดได้มากราบนมัสการองค์พระธาตุสักครั้งในชีวิต ก็จะมีแต่ความผาสุกและความรุ่งเรืองตลอดกาล
อร่อยประจำถิ่น
  • จังหวัดแพร่เป็นแหล่งผลิตชาใบหม่อนชั้นดีอีกด้วยชาใบหม่อนจากกลุ่มแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร ตำบลแม่ยางตาล อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ คือของฝากเพื่อสุขภาพที่ควรติดมือกลับบ้าน หากสนใจโทร.054-548112

รู้ก่อนเดินทาง
  • เชื่อกันว่าหากได้นำผ้าแพรเนื้อดีไปถวายแด่องค์พระธาตุช่อแฮ อานิสงฆ์จะช่วยในเกิดแต่ความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต และหน้าที่การงานตลอดกาล

ที่มาของบทความ
หนังสือ 102 เที่ยวออกรส

READ MORE - กราบพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ประจำคนปีขาล แห่งเมืองหม้อห้อม

วันพุธที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ชมประทีปพันดวง ที่ลอยกลางสายน้ำปิง ประเพณีลอยกระทงสาย ตาก

ชมประทีปพันดวง ที่ลอยกลางสายน้ำปิง

แสงประทีป ลอยเป็นสายไปตามลำน้ำ ยาวสุดสายตา เพื่อบูชาพระแม่คงคา อธิษฐานรอบพระบาท ลอยทุกข์ ลอยโศก ให้ห่างหายไปไม่กลับมา บรรยากาศที่งดงามของประเพณีลอยกระทงสาย ไหลประทีปพันดวงของชุมชนลุ่มแม่น้ำปิง

ความงดงามของกระทงสาย ที่ถูกปล่อยไหลไปตามสายน้ำปิง เป็นประเพณีที่มีเอกลักษณ์ของชาวจังหวัดตากที่งดงามและสืบทอดกันมานาน สำหรับที่อื่นๆ กระทงจะทำด้วยใบตอง แต่กระทงของที่นี่จะทำด้วยกะลามะพร้าว ที่ขัดล้างจนสะอาด ใช้เทียนไขที่เคี่ยวจนเหลว เทใส่ในกะลาที่มีด้ายฟั่นเป็นรูป ตีนกา วางตรงกลาง เพื่อใช้จุดเป็นกระทงประทีป ยามเช้าชาวบ้านแต่ละหมู่บ้านจะพร้อมใจกันจัดขบวนแห่ แต่งตัวสวยงามร่ายรำกันอย่างสนุกสนาน นำขบวนกระทงกะลามาลอยที่ริมฝั่งแม่น้ำปิง รำลึกจิตอษิฐานบูชารอบพระบาท และบูชาพระแม่คงคา และอษิฐานเพื่อลอยทุกข์โศก จากนั้นปล่อยแพผ้าป่าน้ำ เป็นทานให้กับคนที่เก็บแพที่ลอยน้ำไปได้
กระทงสาย
ยามค่ำคืนจะมีการประกวดกระทงสายชาวบ้านจะช่วยกันคนละไม้ละมือปล่อยกระทงกะลาลงไปในแม่น้ำเป็นระยะๆ ห่างเท่ากัน อย่างสม่ำเสมอ กระทงกะลามะพร้าวจะลอยเป็นสายยาวล่องไปตามแม่น้ำปิง ส่องแสงระยิบระยับสวยงามไปทั่วทั้งผืนน้ำ และถ้าหาก กระทงสาย ของหมู่บ้านใน ลอยได้ระยะสม่ำเสมอ แสงไฟไม่ดับตลอดสายจะถือเป็นผู้ชนะ บรรยากาศสองฟากฝั่งเต็มไปด้วยความสนุกสนาน กองเชียร์ตีกลองร่ายรำกันอย่างครื้นเครง พลุดอกไม้ไฟถูกจุดขึ้นตระการตา อบอวลไปด้วยความงดงามและมิตรไมตรีของชาวแม่ปิง เป็นภาพที่น่าประทับใจยิ่งนัก

อร่อยประจำถิ่น
  • อย่าพลาดอาหารว่างที่เป็นอาหารพื้นเมืองที่นิยมของชาวเมืองตาก คือ “เมี่ยง” ทำด้วยมะพร้าว ถั่วลิสง ใบเมี่ยงหมักเป็นหลัก อย่าลืมซื้อติดมือติดไม้กลับบ้าน

รู้ก่อนเดินทาง

ที่มาของบทความ
หนังสือ 102 เที่ยวออกรส

READ MORE - ชมประทีปพันดวง ที่ลอยกลางสายน้ำปิง ประเพณีลอยกระทงสาย ตาก

ชมโคมลอยนับพัน ล่องลอยบนฟ้าในคืนลอยกระทง

ชมโคมลอยนับพัน ล่องลอยบนฟ้าในคืนลอยกระทง

ใครที่ชื่นชอบบรรยากาศพื้นเมือง รอยยิ้มที่เป็นกันเอง และความเป็นล้านนา การลอยกระทงและลอยโคมประทีปของที่นี่ จะสร้างความสดใสมีชีวิตชีวาให้กับคุณ

โคมไฟหลายพันดวง ลอยเป็นสายเต็มฟากฟ้ายามราตรี ทำให้ฟ้าค่ำคืนนี้สว่างไสว ประดุจดดวงดาวนับล้านๆ ดวง ชาวบ้านเชื่อกันว่า ประเพณีลอยโคมยี่เป็ง เป็นการปลดปล่อยความทุกข์ความโศก และสิ่งไม่ดีในชีวิต ให้ลอยไปกับโคมประทีป ตามวัดวาอาราม บ้านเรือนของชาวล้านนา จะประดับประดาไปด้วยโคมไฟ และดอกไม้นานาพันธุ์ อรุณรุ่งของวันยี่เป็ง ชาวบ้านจะถวายข้าวมธุปายาสแต่พระพุทธเจ้าจากนั้นจะเดินทางไปที่วัด นำข้าวปลาอาหารไปถวายพระสงฆ์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษและร่วมฟังเทศน์มหาชาติ
ใครที่ชอบความครึกครื้น ช่วงกลางวันที่ถนนท่าแพ จะมีขบวนแห่กระทงขนาดใหญ่ มีการประกวดกระทงที่น่าตื่นตาตื่นใจ อบอวลไปด้วยบรรยกาศรื่นเริงของนางรำ นางฟ้อน ที่วาดลีลาอ่อนซ้อยไปตามท้องถนน ตกเย็นเป็นเวลาที่โคมลอยหลายพันดวงจะถูกจุดขึ้นพร้อมๆ กัน แล้วทยอยปล่อยโคมเป็นสายยาว พร้อมอธิษฐานจิต ให้โคมนั้นลอยไปเพื่อถวายแด่พระพุทธเจ้า พระเกตุเจ้าจุฬามณี บนสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ปล่อยทุกข์โศก โรคภัยในชีวิตให้ลอยหายมลายสิ้นไปพร้อมกับโคมลอย
ประเพณีลอยโคมยี่เป็ง


อร่อยประจำถิ่น
  • อาหารพื้นเมืองยอมนิยมของที่นี่ น้ำพริกหนุ่ม แคบหมูเจ้าอร่อยที่ร้านเจ๊หงส์ ร้านน้ำพริกหนุ่มบุญศรี อยู่ในตลาดวโรรส ไส้อั่วมีทุกตลาดหรือลองแวะซื้อไส้อั่วต้นมะขามเป็นเพิงเล็กๆ อยู่บนถนนเลียบคลองชลประทาน

รู้ก่อนเดินทาง
  • ลอยโคมยี่เป็ง จัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ประมาณเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ซึ่งตรงกับวันลอยกระทง

ที่มาของบทความ
หนังสือ 102 เที่ยวออกรส

READ MORE - ชมโคมลอยนับพัน ล่องลอยบนฟ้าในคืนลอยกระทง

วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สัมผัสมหัศจรรย์แห่งสมุนไพรไทย เขาค้อทะเลภู เพชรบูรณ์

สัมผัสมหัศจรรย์แห่งสมุนไพรไทย
เขาค้อทะเลภู เพชรบูรณ์

ดุลยภาพระหว่างชีวิตและธรรมชาติ อาจฟังดูไกลเกินเอื้อม ทว่าวินาทีที่ได้เดินเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเขาค้อทะเลภู จะค้นพบคำตอบอันแสนมหัศจรรย์ของชีวิต ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังสมุนไพรไทยของเรานี่เอง

ชื่อเสียงของเขาค้อทะเลภู เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนรักสุขภาพมาแสนนาน แต่ละปีที่นี่ต้อนรับทุกคนด้วยสายลมเย็นสบายในอุณหูภูมิเฉลี่ยเพียง 17 องศาเซลเซียสเท่านั้น ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลปานกลางเกือบ 3,000 ฟุต ที่นี่มีสมุนไพรไทยมากหน้าหลายตาและหลากหลายสรรพคุณในอาณาจักรที่กว้างไกลสุดตาบนเนื้อที่ถึง 200 ไร่ พร้อมๆ กับชมกระบวนการผลิตสมุนไพรแปรรูปต่างๆ ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการคัดกรองว่าปลอดสารพิษมาตั้งแต่แรกเริ่ม แม้แต่ผักพื้นบ้านของที่นี่ เขาก็การันตีว่าปลอดสารพิษเป็นมิตรต่อสุขภาพ เป็นทัวร์ทัศนศึกษา เสริมสร้างความรู้และจินตนการให้เจ้าตัวน้อยของบ้านได้เป็นอย่างดี
เขาค้อทะเลภู

ส่วนใครที่รักสายลมและแสงแดด ออกแรงเดินทอดน่องยามเช้า สูดอากาศสดชื่นบนทุ่งนาฟ้ากว้างที่นี่จะได้พบกับตำนานชีวิตชาวนาไทยที่หาชมได้ยากมากขึ้นทุกวัน และอย่าลืมแวะชมโรงสีข้าวกล้องสูตรของเขานั้นทำแบบ “ตำข้าวสารกรอกหม้อ” ได้ข้าวกล้องสดใหม่มากมายคุณค่า และถ้าอยากนอนนับดาวบนผืนฟ้ากว้างกันจุใจ ที่นี่ยังมีรีสอร์ทในบรรยากาศที่จะพาคุณไปตีสนิทแนบชิดป่าเขามีสายลมและแสงดาวที่ให้ความสุขใจ....แถมได้สุขภาพดีอีกด้วย

อร่อยประจำถิ่น
  • เพื่อสุขภาพกายที่ดีอย่างเต็มเปี่ยม อย่าลืมแวะชิมเมนูเพื่อสุขภาพที่ “ครัวทะเลภู” ร้านอาหารสไตล์พอเพียงของเขาค้อทะเลภูในแนวคิดอร่อยเพื่อสุขภาพและรสชาติที่ถูกใจ ที่คัดสรรพืชผักผลไม้จากไร่ ซึ่งปลูกขึ้นเองนำมาปรุงสดใหม่ทุกวัน

รู้ก่อนเดินทาง
  • สามารถเยี่ยมเยือนเขาค้อทะเลภูได้ตลอดทั้งปี เพราะที่นี่ยึดถือปณิธาน เพื่อการดูแลสุขภาพตามวิถีธรรมชาติ โทร. 056-750061-3

ที่มาของบทความ
หนังสือ 102 เที่ยวออกรส

READ MORE - สัมผัสมหัศจรรย์แห่งสมุนไพรไทย เขาค้อทะเลภู เพชรบูรณ์

เพลิดเพลินกับสรรพสัตว์และฝูงปลานานาชนิด

เพลิดเพลินกับสรรพสัตว์และฝูงปลานานาชนิด
สวนสัตว์เชียงใหม่

เพลิดเพลินกับสรรพสัตว์นานาชนิด ตื่นตากับฝูงปลานับร้อยพัน ในอควาเรียมที่ยาวที่สุดในเอเชีย ที่ที่จะช่วยเติมเต็มความสุขของพ่อแม่ ด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของลูกๆ

สวนสัตว์เชียงใหม่
ความคึกคักภายใน สวนสัตว์เชียงใหม่ เริ่มขึ้น เมื่อเจ้าแพนด้าผู้น่ารักสองตัว หลินฮุ่ย กับ ช่วงช่วง เข้ามาร่วมชายคาเป็นดาราชูโรงที่ดึงดูดเด็กๆ มากมาย ไม่เว้นแม้แต่ผู้ใหญ่ ให้เดินทางเข้ามาสัมผัสชีวิตของสองฑูตน้อยผู้น่ารักจากจีนแผ่นดินใหญ่กันอย่างคับคั่ง และวันนี้ “เชียงใหม่ ซู อควาเรียม” พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำครบวงจรแห่งแรกและหนึ่งเดียวในเอเชีย ก็กำลังสร้างมนต์เสน่ห์ดึงดูดผู้มาเยือนให้ตื่นตาตื่นใจไปกับฝูงปลาหลากชนิดกว่า 8,000 ตัว
สวนสัตว์เชียงใหม่

ภายในอุโมงค์ใต้น้ำยาวกว่า 133 เมตร ซึ่งยาวที่สุดในเอเชียนั้น เด็กๆ จะได้เรียนรู้ระบบนิเวศน์ที่เชื่อมต่อระหว่างโลกของสัตว์น้ำจืดและน้ำเค็ม มองดูปะการังกำลังพลิ้วไหว แถมยังจะได้เรียนรู้เรื่องราวของนิเวศวิทยาทางน้ำที่มีจุดเริ่มต้นจากดอยอินทนนท์
ก่อนเดินสู่ป่าโกงกางจำลองบรรยากาศหุบเขาและเขื่อนภูมิพลได้อย่างน่าสนใจ ทั้งยังสนุกกับป่าชุ่มน้ำที่คล้ายลุ่นน้ำอเมซอน โซนแมลงนานาพันธ์ เรียกได้ว่ามาที่นี่ที่เดียว ทั้งครอบครัวจะได้เรียนรู้ธรรมชาติร่วมกันอย่างเบิกบานกายและใจเป็นที่สุด



อร่อยประจำถิ่น
  • ในสวนสัตว์เชียงใหม่มีร้านค้าจำหน่ายอาหารให้เลือกมากมายหลายประเภท ทั้งฟาสต์ฟู้ด อาหารจานเดียวเครื่องดื่ม ขนมคบเคี้ยว สะดวกสบายสำหรับทุกคนในครอบครัว

รู้ก่อนเดินทาง
  • สามารถเดินทางเข้าชมได้ตลอดทั้งปี และเก็บค่าบัตรผ่านประตูเข้าอควาเรียม สำหรับผู้ใหญ่ 220บาท และเด็ก 130 บาท
  • สวนสัตว์เชียงใหม่ โทร.053-221179




ที่มาของบทความ
หนังสือ 102 เที่ยวออกรส


READ MORE - เพลิดเพลินกับสรรพสัตว์และฝูงปลานานาชนิด

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เทือกเขาสูง ยอดหญ้าเหยีดดฟ้า อลังการวิวดอย

เทือกเขาสูง ยอดหญ้าเหยีดดฟ้า อลังการวิวดอย
ดอยม่อนจองเชียงใหม่

ไม่ว่าจะเป็นวิวสันดอย วิวเทือกเขา วิวทะเลหมอก วิวท้องฟ้า วิวไหนๆ ก็สวยไปหมด ที่ดอยม่อนจอง เส้นทาเดินแสนสวยสุดโรแมนติกบนริมสันเขา....ความมหัศจรรย์ของเทือกเขายามท้องฟ้าอาบแสงสีทอง

ดอยม่อนจอง เชียงใหม
บนยอดเขาดอยสูงไกลสุดสายตา กลางป่าลึกของผืนป่าอมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ดอยม่อนจองมีเส้นทางเดินเลียบริมขอบฟ้าให้คุณได้สัมผัสกับทุ่งหญ้า ผืนป่า และความงดามของทัศนียภาพที่หาขีดจำดัดไม่ได้ ไม่ว่าจะหันหน้าไปทิศทางใด มุมมองไหนๆ ก็สวยจนเกือบลืมหายใจ บนเทือกเขาสูงกลับซับซ้อนแห่งลุ่มแม่น้ำปิง ดอยม่อนจอง มีด้านตะวันออกเป็นป่าดิบทึบ และด้านตะวันตกเป็นแนวหน้าผาที่ทอดยาวกว่า 3 กิโลเมตร อาณาจักรผืนดินสูงเฉียดฟ้าแห่งนี้ ยังเป็นที่อยู่อาศัยของกวางผาหรือม้าเทวดา สัตว์ป่าสงวนของไทย ถ้ามาในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม จะได้พบกับดอกกุหลาบพันปี ออกดอกสีแดงจัด เบ่งบานรับอรุณเต็มต้น เหนือสิ่งอื่นใด คือการได้หยุดยืนอยู่บนยอดเขาหัวสิงห์ ยลพระอาทิตย์โผล่พ้นเส้นขอบฟ้า อิ่มเอมกับภาพาโนรามาของเทือกเขา ทะเลเหมอก และท้องฟ้าอาบแสงสีส้มทอง โดยที่ไม่มีอะไรมาขวางกั้น และไม่แปลกอะไรถ้าจะนั่งชมวิวที่นี่ตลอดทั้งวัน เพื่อรอแสงสุดท้ายจนท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีชมพู เพราะความงามที่ไม่รู้จบ บน ดอนม่อนจอง แห่งนี้ ทำให้ใครหลายคนปฏิเสธไม่ได้ว่า ดอนม่อนจอง คือ เส้นทางมหัศจรรย์ที่น่าค้นหาอีกแห่งของประเทศไทย

อร่อยประจำถิ่น
  • ของฝากขึ้นชื่อ ต้องน้ำพริกตาแดง น้ำพริกปลาร้า น้ำพริกแมงดา ชาวบ้านตำใส่กระปุกวางขาย ได้รสชาติแท้ๆ
  • สำหรับผู้ที่บรรลุนิติภาวะแล้ว ถ้ามาถึงดอยม่อนจอง ขอให้ลอง “ ดาวลอย “ เหล้าพื้นบ้านที่รสชาติไม่บ้าน
  • ก่อนเดินทางขึ้นดอย แวะซื้อเสบียงและอาหารกล่องได้ที่ “ร้านป้าฝน” ตรงสี่แยกอมก๋อย หรือใครที่ชอบทานโรตีสมุนไพรใส่ตะไคร้ เจ้าของเป็นคุณครูโรงเรียนประชาบาลจะมีขายอาทิตย์ละ 2 วันเป็นอาชีพเสริม

รู้ก่อนเดินทาง
  • ฤดูกาลของการท่องเที่ยว คือฤดูหนาวจากเดือนตุลาคมเป็นต้นไป คือวันเวลาที่ดีที่สุด ที่จะได้ชมกวางผา และสามารถเที่ยวได้จนถึงช่วงต้นฤดูฝน ราวเดือนพฤษภาคม
  • ดอยม่อนจองไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ นักท่องเที่ยวต้องนำเต๊นท์ขั้นไปกางและทำอาหารทานเอง

    ที่มาของบทความ
    หนังสือ 102 ที่เที่ยวออกรส 
     
READ MORE - เทือกเขาสูง ยอดหญ้าเหยีดดฟ้า อลังการวิวดอย