สักครั้งหนึ่งในชีวิต ต้องไปชม ปรากฏการณ์ที่น่าจดจำ เมื่อพญานาคแห่งเมืองบาดาลได้พ่นบั้งไฟเพื่อบูชาพระพุทธเจ้า ซึ่งเสด็จลงมาจากสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ลูกไฟสีแดงอมชมพูพุ่งขึ้นจากลำน้ำโขง เหนือผิวน้ำตั้งแต่ระดับ 1-30 เมตร แล้วพุ่งแหวกอากาศขึ้นไปสูงประมาณ 50-10 นาที แล้วก็จะดับหายวับไปในอากาศ โดยไม่มีลักษณะโค้ง ตกลงมาเหมือนดอกไม้ไฟ ลูกไฟที่เกิดขึ้นจะไม่มีกลิ่น ไม่มีควัน ไม่มีเสียง ขนาดของลูกไฟมีตั้งแต่เท่าหัวแม่มือจนถึงขนาดเท่าฟองไข่ไก่ และจะเริ่มปรากฏให้เห็นตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดินจนถึงเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันออกพรรษา นั่นคือปรากฏการณ์ บั้งไฟพญานาค
ตั้งแต่ครั้งโบราณกาลชาวโพนพิสัยมีความเชื่อว่า เมืองโพนพิสัยแห่งนี้ เป็นเมืองหน้าด่านของนครบาล ชื่อเมืองพัทลุง ส่วนการที่เกิด บั้งไฟพญานาค นั้น สืบเนื่องมาจากวันออกพรรษา เมื่อ 2,000 กว่าปี ล่วงมาแล้ว เป็นวันที่พระพุทธเจ้า เสด็จกลับลงมาจากสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากที่เสด็จไปเทศนาโปรดพระพุทธมารดา เป็นเวลา 3 เดือน เหล่ามนุษย์ เทพยาบนสวรรค์ เทพเทวา ทุกภพ ทุกภูมิ ต่างยินดีปรีดาเฉลิมฉลองจึงถือเป็นวันออกพรรษาครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด พญานาคแห่งนครบาดาล ผู้ศรัทธาในพระพุทธเจ้า จึงได้พ่นบั้งไฟจากใต้บาดาลขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อบูชาสรรเสริญพระพุทธองค์ ใครที่ปรารถนาจะชมและมีส่วนร่วมไปกับปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ งดงามและน่าอัศจรรย์นี้ไม่ควรพลาดเด็ดขาด
อร่อยประจำถิ่น
- อาหารอีสานรสแซบของที่นี่มีอยู่หลายร้าน เนื้อย่างน้ำตก ต้มแซบ อ่อมไก่ ต้องร้านเจนจบทิศ อยู่ถนนหนองคาย โพนพิสัย ไก่ย่าง ส้มตำ ต้องร้านริมโขง อยู่ที่ถนนริมโขง อิ่มอร่อยได้บรรยากาศ ใครชอบปลาเผาเนื้อหวานๆ ต้องร้านส้มตำสะดิ้ง ทานคู่กับส้มตำอร่อยอย่าบอกใคร ใครยังไม่เคยชิมสุกี้เวียง ต้องร้านสุกี้เวียงจันทร์ อยู่ถนนริมโขง เปิด 10.00-22.00 น.
รู้ก่อนเดินทาง
· ประเพณีบั้งไฟพญานาคจะมีขึ้นในช่วงวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี
ที่มาของบทความ
หนังสือ 102 เที่ยวออกรส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น